ปวดหลัง คืออะไร
ปวดหลัง คือ อาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบริเวณแผ่นหลัง ซึ่งอาจเป็นอาการปวดเล็กน้อยไปจนถึงปวดอย่างรุนแรง และอาจเป็นแบบเฉียบพลัน (เกิดขึ้นทันทีและหายไปในไม่กี่วันหรือสัปดาห์) หรือเรื้อรัง (คงอยู่นานกว่า 3 เดือน) ก็ได้ อาการปวดเป็นอาการที่พบบ่อยมาก เป็นสาเหตุหลักอันดับต้นๆ ที่ผู้คนไปพบแพทย์ และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนทำงานขาดงาน
ตอนที่ 1 : สาเหตุของอาการปวดหลัง
ตอนที่ 2 : ปวดหลังในผู้หญิงและผู้ชาย กี่ประเภท
ตอนที่ 3 : ท่าบริหารเบื้องต้นของอาการปวดหลัง
ตอนที่ 4 : วีธีรักษาอาการปวดหลัง
ตอนที่ 5 : สรุป
สาเหตุของอาการ ปวดหลัง
สาเหตุของอาการปวดนั้นมีมากมายและหลากหลายมาก ตั้งแต่สาเหตุที่ไม่รุนแรงและมักหายได้เอง ไปจนถึงสาเหตุที่ร้ายแรงและต้องได้รับการรักษาอย่างจริงจัง สามารถแบ่งได้เป็นกลุ่มใหญ่ๆ 2 กลุ่ม
สาเหตุ ปวดหลัง ที่พบบ่อยที่สุด
1.) กล้ามเนื้อตึง/เคล็ด/อักเสบ
- ยกของหนักผิดท่า: เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด การยกของโดยไม่งอเข่า หรือใช้กำลังจากหลังมากเกินไป
- การเคลื่อนไหวผิดจังหวะ: เช่น บิดตัวอย่างรวดเร็ว หกล้ม สะดุด
- การอยู่ในท่าทางที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน: เช่น นั่งทำงานหลังค่อม นั่งไขว่ห้าง ยืนนานๆ ในท่าที่ไม่ถูกต้อง นอนในท่าที่ไม่รองรับสรีระ
- การออกกำลังกายที่หักโหมหรือไม่ถูกต้อง: ทำให้กล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นบาดเจ็บ
- การใช้กล้ามเนื้อหลังมากเกินไป: เช่น การทำงานที่ต้องก้มๆ เงยๆ บ่อยๆ
2.) หมอนรองกระดูกเสื่อม
- หมอนรองกระดูกที่ทำหน้าที่เป็นเบาะรองรับแรงกระแทกระหว่างกระดูกสันหลังเสื่อมสภาพตามวัย ทำให้ความยืดหยุ่นลดลง และอาจเกิดการเสียดสีกันของกระดูกสันหลัง
- หมอนรองกระดูกเคลื่อน/ปลิ้น/ทับเส้นประสาท (Herniated/Bulging Disc): เมื่อหมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพ เนื้อเยื่อด้านในอาจปลิ้นออกมาทับเส้นประสาท ทำให้มีอาการปวดร้าว ชา หรืออ่อนแรงตามแนวเส้นประสาทที่ถูกกดทับ (เช่น ปวดร้าวลงขา หรือที่เรียกว่า Sciatica)
3.) กระดูกสันหลังเสื่อม/ข้อเสื่อม
- การสึกหรอของกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อของกระดูกสันหลัง มักเกิดในผู้สูงอายุ ทำให้เกิดอาการปวดและข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวแต่ก็ยังมีลุ้นในการถูก หวยไว อยู่นะครับ
4.) โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ
- ช่องว่างภายในกระดูกสันหลังแคบลง ทำให้ไปเบียดทับไขสันหลังหรือเส้นประสาท มักทำให้มีอาการปวดเมื่อเดินหรือยืนนานๆ และอาการจะดีขึ้นเมื่อนั่งหรือก้มตัว
5.) กระดูกสันหลังเคลื่อน
- กระดูกสันหลังข้อใดข้อหนึ่งเลื่อนไปข้างหน้าหรือข้างหลังเมื่อเทียบกับข้อที่อยู่ติดกัน ทำให้เกิดอาการปวดและอาจกดทับเส้นประสาท
6.) ความเครียดและปัจจัยทางจิตใจ
- ความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า สามารถทำให้กล้ามเนื้อเกร็งตัวโดยไม่รู้ตัว นำไปสู่อาการปวดหลังเรื้อรังได้
7.) น้ำหนักตัวเกิน/โรคอ้วน
- น้ำหนักที่มากเกินไป โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง จะเพิ่มภาระให้กับกระดูกสันหลังส่วนล่างอย่างมาก ทำให้เกิดอาการปวดได้ง่ายขึ้น
8.) การตั้งครรภ์
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การเพิ่มขึ้นของน้ำหนัก และการเปลี่ยนแปลงจุดศูนย์ถ่วงของร่างกายระหว่างตั้งครรภ์ อาจทำให้เกิดอาการปวดหลัง
สาเหตุปวดหลังที่พบไม่บ่อย แต่มีความร้ายแรง
1.) กระดูกสันหลังหัก/แตก
- อาจเกิดจากอุบัติเหตุรุนแรง หรือในผู้สูงอายุที่มีภาวะกระดูกพรุนรุนแรง อาจเกิดการหักยุบตัวได้ง่าย
2.) เนื้องอก/มะเร็ง
- มะเร็งอาจเกิดขึ้นที่กระดูกสันหลังโดยตรง หรือแพร่กระจายมาจากอวัยวะอื่น (Metastatic Cancer) มักทำให้เกิดอาการปวดเรื้อรังที่แย่ลงเรื่อยๆ แม้ในขณะพัก
3.) การติดเชื้อ
- การติดเชื้อในกระดูกสันหลัง (Osteomyelitis), หมอนรองกระดูก (Discitis) หรือช่องไขสันหลัง (Epidural Abscess) ซึ่งมักเป็นภาวะที่รุนแรงและต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะหรือการผ่าตัด
4.) โรคข้ออักเสบ
- เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis), โรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบติดยึด (Ankylosing Spondylitis) ซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่ทำให้เกิดการอักเสบในข้อต่อและกระดูกสันหลัง
5.) ปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะภายใน
- นิ่วในไต/การติดเชื้อในไต: อาจมีอาการปวดร้าวไปที่หลังส่วนล่าง (มักเป็นด้านใดด้านหนึ่ง)
- ปัญหาของระบบสืบพันธุ์สตรี: เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เนื้องอกในมดลูก หรือการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- โรคเกี่ยวกับหลอดเลือดแดงใหญ่ (Aortic Aneurysm): หากหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องโป่งพอง อาจทำให้มีอาการปวดหลังรุนแรงได้
6.) ความผิดปกติแต่กำเนิด
- เช่น กระดูกสันหลังคด (Scoliosis), กระดูกสันหลังข้อสุดท้ายปิดไม่สมบูรณ์ (Spina Bifida Occulta)
ปวดหลังในผู้หญิงและผู้ชายกี่ประเภท
อาการปวดที่หลังในผู้หญิงและผู้ชาย สามารถจำแนกออกได้เป็นหลายประเภท โดยพิจารณาจาก ตำแหน่ง ความรุนแรง และสาเหตุของอาการ ซึ่งโดยทั่วไปสามารถแบ่งได้เป็น 5 ประเภทหลักๆ
✅ 1. ปวดหลังส่วนล่าง
- พบได้บ่อยที่สุดในทั้งเพศหญิงและชาย
- สาเหตุ: กล้ามเนื้อตึง, หมอนรองกระดูกเสื่อม, นั่งนาน, ยกของหนัก
- อาจสัมพันธ์กับโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท (Herniated Disc)
✅ 2. ปวดหลังส่วนบนและไหล่
- พบมากในคนที่นั่งหน้าคอมพิวเตอร์นาน หรือท่าทางไม่เหมาะสม
- สาเหตุ: กล้ามเนื้ออักเสบ, กระดูกสันหลังยึดติด, ข้อต่อเสื่อม
✅ 3. ปวดหลังจากโรคประจำตัวหรือโครงสร้างภายใน
- ในผู้หญิง: ปวดหลังจากปัญหาเกี่ยวกับมดลูก, รังไข่, หรือช่วงมีประจำเดือน
- ในผู้ชาย: อาจเกิดจากต่อมลูกหมากโต หรือโรคไต
- ลักษณะมักปวดลึกๆ เป็นๆ หายๆ และไม่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว
✅ 4. ปวดหลังจากพฤติกรรมซ้ำๆ
- เช่น ออกกำลังกายหนักเกินไป, ท่านั่งผิด, ขับรถนาน
- พบบ่อยในผู้ชายที่ทำงานแรง และผู้หญิงที่ใส่รองเท้าส้นสูง
✅ 5. ปวดหลังจากภาวะทางจิตใจหรือความเครียด
- เกิดจากความเครียดสะสม, ภาวะซึมเศร้า หรือวิตกกังวล
- มักพบในทั้งสองเพศ และอาจไม่มีรอยโรคชัดเจนทางร่างกาย
ท่าบริหารเบื้องต้นของอาการปวดหลัง
สำหรับผู้ที่มีอาการปวดที่หลัง โดยเฉพาะช่วง หลังส่วนล่าง หรือเกิดจาก กล้ามเนื้อตึง หรือ นั่งทำงานนานๆ การบริหารร่างกายเบื้องต้นสามารถช่วยลดอาการปวดและเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังได้ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ มากมายเหมือนกับการเล่น หวยไว ที่ใช้เพียงมือถือเครื่องเดียวกับเวลาในการลุ้นแค่ 1 นาที
5 ท่าบริหารเบื้องต้นบรรเทาอาการ ปวดหลัง
- ท่าแมว-วัว
- คุกเข่าและวางมือทั้งสองบนพื้น (ท่าเหมือนคลาน)
- หายใจเข้า แหงนหน้าขึ้น สะโพกยก (ท่าวัว)
- หายใจออก ก้มหน้าลง โก่งหลังขึ้น (ท่าแมว)
- ทำสลับ 10–15 ครั้ง
*ประโยชน์: ยืดกระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อหลัง ลดอาการตึง
- ท่าดึงเข่าชิดอก
- นอนหงาย งอเข่าข้างหนึ่งเข้าหาหน้าอก
- ใช้มือทั้งสองจับเข่ากดเข้าช้า ๆ
- ค้างไว้ 15–30 วินาที แล้วสลับข้าง
*ประโยชน์: คลายกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง และสะโพก
- ท่าบิดตัวขณะนอน
- นอนหงาย เหยียดขาตรง
- งอเข่าข้างหนึ่งแล้วบิดไปอีกด้านหนึ่งของร่างกาย
- กางแขนออกแนบพื้น มองไปทางตรงข้าม
- ค้างไว้ 20–30 วินาที แล้วสลับข้าง
* ประโยชน์: ช่วยคลายกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างและต้นขา
- ท่าโค้งหลังแบบเด็ก
- คุกเข่าแล้วนั่งลงบนส้นเท้า
- ก้มตัวไปด้านหน้าให้หน้าผากแตะพื้น
- เหยียดแขนไปข้างหน้า
- ค้างไว้ 30 วินาที – 1 นาที
* ประโยชน์: ผ่อนคลายกระดูกสันหลัง ลดแรงกดหลัง
- ท่ายืดหลังยืนตรง
- ยืนตรง แยกเท้าห่างกันพอประมาณ
- วางมือบนสะโพก ค่อย ๆ เอนตัวไปด้านหลัง
- ค้างไว้ 5–10 วินาที
*ประโยชน์: ยืดหลังส่วนบนและล่าง ป้องกันหลังแข็ง
วีธีรักษาอาการ ปวดหลัง
🔹 1. พักผ่อนและเปลี่ยนพฤติกรรม
🔹 2. การประคบร้อน-เย็น
🔹 3. การออกกำลังกาย/กายภาพบำบัด
🔹 4. ใช้ยา
🔹 5. การรักษาเฉพาะทาง
🔹 6. ทางเลือกเสริม
สรุป
อาการปวดเกิดขึ้นได้กับทุกคนโดยเฉพาะช่วงวัย ทำงาน จนไปถึงผู้สูงอายุที่กระดูกจะเสื่อมลงเรื่อยๆ แต่เราก็สามารถทำท่าบำบัดเพื่อรักษากระดูกส่วนหลังของเราเอาไว้ให้ได้อยู่นานที่สุดและเสื่อมสภาพน้อยที่สุดครับ